วิธีติดฟิล์มรถยนต์ ด้วยตนเอง (ไม่ต้องง้อช่าง)

หลายคนอยากจะติดฟิล์มรถยนต์ด้วยตนเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี วันนี้เรามีเคล็ดลับพิเศษที่นำเสนอวิธีติดฟิล์มรถยนต์ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ! เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้อย่างละเอียด

การติดฟิล์มนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้ง่ายมากๆซะทีเดียว ต้องมีการฝึกฝนเพิ่มเติมซักหน่อย รับรองติดได้แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าติดครั้งแรก ซื้อฟิล์มมาเผื่อเยอะๆหน่อยนะครับ

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

ติดฟิล์มรถยนต์เองแล้วมีคำถาม ติดต่อเราสิครับ

อย่างแรกเรามาดูอุปกรณ์สำหรับติดฟิล์มรถยนต์กันก่อนครับ

อุปกรณ์สำหรับติดฟิล์มรถยนต์

เพื่อที่จะติดฟิล์มรถยนต์ด้วยตัวเอง คุณจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับติดตั้งดังนี้:

ฟิล์มกรองแสง: เลือกฟิล์มที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับรถของคุณ
ตลับเมตร: เพื่อวัดขนาดของกระจกให้แม่นยำ
คัตเตอร์ใบมีดสแตนเลส: ใช้สำหรับตัดฟิล์มให้เข้าขนาด ใบมีดสแตนเลสช่วยไม่ให้กระจกเป็นรอย
ไดรเป่าลมร้อน: ใช้เพื่อยืดฟิล์มกรองแสง ให้เข้ากับรูปกระจก ไม่สามารถใช้ไดรเป่าผมทดแทนได้ เนื่องจากความร้อนไม่ถึง (ซื้อเถอะครับ ราคาไม่แพงไม่ถึงพันบาท)
สเปรย์น้ำ หรือ ฟอกกี้ฉีดน้ำ: ใช้ฉีดน้ำยาติดตั้งฟิล์มลงบนกระจกเพื่อช่วยให้ฟิล์มติดง่ายขึ้น
เกรียงรีดฟิล์ม: ใช้ในการรีดฟิล์มให้แน่นเพื่อไม่ให้มีฟองอากาศติดค้างอยู่ในฟิล์ม
ผ้าไมโครไฟเบอร์ : เพื่อทำความสะอาดกระจก รองหน้าเบาะหรือคอนโซล เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าระบบไฟ
น้ำยาติดฟิล์ม: ใช้ผสมกับน้ำเพื่อสเปรย์เพิ่มความลื่น ทำให้สามารถเลื่อนฟิล์มได้เวลาติดตั้งได้ หากไม่มีน้ำยาติดฟิล์มสามารถใช้แชมพูเด็กผสมน้ำทดแทนได้
ด้ามลอกฟิล์ม: ใช้ในกรณีที่ต้องการลอกฟิล์มเก่าออกจากกระจก เราสามารถใช้ด้ามลอกฟิล์มที่เป็นด้ามจับเพิ่มความสะดวกในการลอก ถ้าไม่มีต้องใช้มือจับใบมีดลอก ซึ่งอาจจะเสียเวลาได้

สถานที่ที่เหมาะสม สำหรับติดฟิล์มรถยนต์

ในการติดฟิล์มรถยนต์นั้น เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความประณีตและความละเอียด สถานที่สำหรับการติดฟิล์มดังนั้นจึงจำเป็นต้องเป็นที่ที่สะอาด และปลอดภัยจากฝุ่นและสิ่งสกปรก

ดังนั้น เราควรทำการติดฟิล์มในพื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการติดตั้งในที่ที่มีลมมาก เพราะลมอาจทำให้ฝุ่นติดอยู่ใต้ฟิล์มหรือทำให้ฟิล์มหลุดจากกระจกได้

วิธีการติดฟิล์มรถยนต์ด้วยตนเอง

เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมทุกอย่างแล้ว นี่คือขั้นตอนในการติดฟิล์มกระจกรถยนต์อย่างเป็นมืออาชีพ มาดูกันเลยครับ

วัดขนาดกระจก: เริ่มต้นด้วยการใช้ตลับเมตรวัดขนาดกระจกแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็น กระจกหน้า กระจกบ้าง กระจกบานหลัง กระจกบานตาย วัดเป็นหน่วยนิ้ว หลังจากนั้นตัดฟิล์มให้ใหญ่กว่ากระจกเล็กน้อย ประมาณด้านละ 1-2 นิ้ว เพื่อตัดแต่งให้พอดีตอนหลังๆ
เป่าทำแบบฟิล์มกรองแสงให้เข้ากับกระจก: เฉพาะบานหน้าและบานหลัง ใช้ไดรเป่าลมร้อน เป่าฟิล์มให้อ่อนแล้วใช้มือลูบยืดไปตามความโค้งของกระจก ส่วนบานข้างและบานตาย ไม่จำเป็นต้องใช้ไดรเป่าลมร้อนครับ
ตัดฟิล์มให้พอดี: ใช้ใบมีดแสตนเลสตัดตัดขอบฟิล์มให้เรียบร้อยและพอดีกับขนาดกระจก โดยระวังไม่ให้เกิดช่องแสง จะทำให้การติดตั้งไม่สวยได้
ลอกฟิล์มเก่าออก: ถ้ามีฟิล์มเก่าต้องลอกออกก่อน ซึ่งในขั้นตอนนี้ บางคนจะลอกออกก่อนเป็นอันดับแรก อันนี้แล้วแต่เราถนัด ในการลอกฟิล์มเก่าต้องระมัดระวังให้มาก เพราะอาจทำลายส่วนภายในรถ โดยเฉพาะเส้นฮีตเตอร์ไล่ฝ้าที่กระจกด้านหลัง วิธีการลอกคือ ฉีดน้ำยาลอกฟิล์มทิ้งไว้แล้ว ให้ใช้มีดโกนขูดกาวที่ติดอยู่ออกให้หมด แล้วทำความสะอาดกระจกให้พร้อมติดฟิล์มใหม่ (ซึ่งต่อให้ไม่มีการลอกฟิล์มเก่าออก ก็ต้องทำความสะอาดกระจกด้วยการใช้คัตเตอร์ขีดออกอยู่ดีครับ)
ติดฟิล์ม: ช่างจะติดฟิล์มกรองแสงที่ทำแบบไว้ติดที่ด้านในของกระจก โดยฉีดน้ำยาติดตั้งลงบนกระจก แล้วทำการลอกแผ่นพลาสติกใส หรือที่เราเรียกว่าแผ่นไลเนอร์ออก ติดฟิล์มเข้าไปกับกระจก ปรับขนาดของฟิล์มให้เข้ากับกระจก แล้วใช้เกรียงรีดฟิล์มให้แน่น ไม่มีฟองอากาศ
รอให้ฟิล์มแห้ง: หลังจากติดฟิล์มเสร็จ ต้องรอให้กาวและน้ำยาติดตั้งแห้ง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์มและสภาพอากาศ ระหว่างนี้ไม่ควรเปิดหน้าต่างรถ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 7 วัน (สามารถล้างรถได้ตามปกติ)
ตรวจสอบฟิล์ม: เมื่อฟิล์มแห้งแล้ว ต้องตรวจสอบว่ามีฟองน้ำหรือรอยเส้นใดๆ หรือไม่ ในบางครั้งฟิล์มอาจจะมีการเด้งออกมาจากกระจกได้ ถ้ามีให้นำรถยนต์กลับไปหาช่างเพื่อแก้ไขอีกรอบ
ทำความสะอาดฟิล์มหลังติดตั้ง: เมื่อติดฟิล์มเสร็จแล้ว ให้ดูแลทำความสะอาดฟิล์มให้ดี โดยทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่เหมาะสม ห้ามใช้น้ำยาเช็ดกระจกในการทำความสะอาดฟิล์ม และหลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมขูดกระจกที่อาจทำลายเนื้อฟิล์มได้

วิธีติดฟิล์มรถยนต์บานหน้า

วิธีติดฟิล์มรถยนต์บานข้าง

วิธีติดฟิล์มรถยนต์บานหลัง

เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ใหม่ ที่จะช่วยป้องกันความร้อน และมีประสิทธิภาพดี ถูกใจคุณแน่นอนครับ

ติดฟิล์มรถยนต์โดยช่างมืออาชีพ ราคาไม่แพง ติดต่อเราได้เลยครับ

การแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยในการติดตั้งฟิล์มรถยนต์

ฟิล์มมีฝุ่น: ถ้าติดแล้วเจอว่าฟิล์มมีฝุ่น ลองลอกออกแล้วติดเขี่ยเม็ดฝุ่นออก ซึ่งสามารถทำใหม่ได้ภายใน 5 นาที แต่ต้องระวังอย่าให้ฟิล์มแห้งเกินไปก่อนนะครับ ไม่งั้นฟิล์มจะเสีย และต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกหมด
ฟิล์มมีฟองน้ำ หรือต่อมน้ำในฟิล์ม: ใช้เกรียงเพื่อรีดอากาศออกจากฟิล์มให้หมด แต่ต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน หากรีดแรงเกินไปฟิล์มจะยับได้

ซื้อฟิล์มรถยนต์ติดเองได้ที่ไหน?

1. ร้านติดตั้งฟิล์มรถยนต์มืออาชีพ

การซื้อฟิล์มรถยนต์ที่ร้านติดตั้งฟิล์มรถยนต์มืออาชีพเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมักมีช่างที่มีความชำนาญและมีฟิล์มที่มีคุณภาพดี มีให้เลือกหลายยี่ห้อ นอกจากนี้ยังสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำฟิล์มที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

2. ซื้อโดยตรงจากแบรนด์

หากคุณต้องการความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพ ซื้อจากศูนติดตั้งฟิล์มกรองแสงของแบรนด์นั้นๆ เช่น Hi-kool 3M Lamina ฯลฯ ได้ทันที แต่ข้อเสียคือ บางแบรนด์อาจจะไม่ได้แบ่งขายเป็นจำนวนน้อย อาจจะต้องซื้อเต็มม้วนหรือครึ่งม้วน(250-500 ตารางฟุต) ซึ่งอาจจะเยอะเกินไปสำหรับทดลองติดตั้งด้วยตนเอง เพราะฟิล์ม 1 ม้วน สามารถติดได้มากถึง 10 คันเลยทีเดียว

3. ซื้อออนไลน์

หากคุณมั่นใจในสิ่งที่คุณต้องการ คุณอาจซื้อฟิล์มรถยนต์ออนไลน์ แต่ควรตรวจสอบรีวิวและเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ เพราะเราจะไม่สามารถมั่นใจในคุณภาพฟิล์มกรองแสงในร้านออนไลน์ได้เลย จนกว่าเราจะได้สินค้ามาถึงมือแล้ว และควรระวังฟิล์มคุณภาพต่ำ เพราะ ด้วยความที่เราไม่มีความรู้ในตัวสินค้ามาก เราจะไม่มีตัวเปรียบเทียบว่า ฟิล์มที่ดีเป็นอย่างไร และฟิล์มที่ไม่ดีเป็นอย่างไร จะสู้การไปเลือกที่ร้านไม่ได้นั่นเอง

3 เทคนิค เลือกฟิล์มรถยนต์ตามความต้องการและงบประมาณของคุณ

1. การกำหนดความต้องการของคุณ

เริ่มต้นด้วยการกำหนดว่าคุณต้องการฟิล์มเพื่ออะไร เช่น การกันแสงแดด การกันความร้อน เพื่อความสวยงามของรถ หรือ การป้องกันความร้อนสูงสุด เพราะเราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อของแพงมาก ถ้าเรารู้ความต้องการของเราได้อย่างแน่นอน

2. ศึกษาเกี่ยวกับประเภทของฟิล์ม

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของแต่ละประเภทของฟิล์ม เพื่อเลือกฟิล์มที่ตรงกับความต้องการของคุณ โดยฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์มีหลากหลายประเภท เช่น

1. Dyed Film (ฟิล์มย้อมสี)

ฟิล์มสีเป็นฟิล์มที่สามารถลดแสงแดดและความร้อนที่เข้ามาในรถได้ แต่อาจไม่สามารถกันรังสี UV ได้ดีเท่าที่ควร ว่าง่ายๆคือเป็นฟิล์มกันแสงไม่กันร้อน ราคาถูกมากๆ เพียงติดตั้งคันละ 1,000-2,000 บาท (ราคารวมติดตั้ง) ก็ติดได้ครับ

2. Metallic Film (ฟิล์มโลหะ)

ฟิล์มนี้มีสารประกอบของโลหะ หรือที่เราเรียกกันว่าฟิล์มปรอท ซึ่งสามารถช่วยกันรังสี UV และความร้อนได้ดี มีหลากหลายสีให้เลือก แต่อาจจะมีผลต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ ถ้าฉาบปรอทมากเกินไป

3. Ceramic Film (ฟิล์มเซรามิก)

ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มที่มีประสิทธิภาพสูงในการกันรังสี UV และความร้อน ไม่ส่งผลต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และมีความทนทานสูง กันรังสีความร้อนได้สูงมากกว่า 80% ดำนอกสว่างใน หากต้องการการป้องกันความร้อนสูงสุด ต้องฟิล์มเซรามิคเท่านั้นครับ

4. Carbon Film (ฟิล์มคาร์บอน)

ฟิล์มคาร์บอนไม่มีสารประกอบของโลหะ แต่สามารถกันรังสี UV และความร้อนได้ดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับรถด้วย ถือว่าเป็นฟิล์มที่ค่อนข้างเคลีย ดำนอกสว่างในคล้ายๆฟิล์มเซรามิค แต่จะมีสีที่ซีดจางลงไปตามกาลเวลาบ้าง และอาจจะกันร้อนสูงฟิล์มเซรามิคไม่ได้ ราคาก็ถูกกว่า

3. กำหนดงบประมาณติดตั้งฟิล์มกรองแสง

กำหนดงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ เนื่องจากราคาของฟิล์มรถยนต์มีช่วงที่หลากหลาย ตั้งแต่ตารางฟุตละ 5-10 บาท ไปจนถึงตารางฟุตละ 200-300 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพการป้องกันความร้อน และ แบรนด์ของฟิล์ม

ในการติดฟิล์มรถยนต์แต่ละครั้ง เราจะใช้พื้นที่ในการติดฟิล์มประมาณ 40-60 ตารางฟุต แล้วแต่ขนาดของรถยนต์

ทำไมการใช้บริการติดตั้งฟิล์มจากร้านมืออาชีพถึงสำคัญ?

หากคุณทดลองติดเองแล้ว ไม่ได้ผลลัพท์ตามที่ต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมช่างติดฟิล์มมืออาชีพจากร้านที่ดี จึงมีความสำคัญ

ความชำนาญ: ช่างมืออาชีพมีประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์มที่ดี ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าฟิล์มจะถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง ไม่มีฟองอากาศหรือช่องแสงแน่นอน
เครื่องมือและวัสดุ: ร้านมืออาชีพมักมีเครื่องมือและวัสดุที่มีคุณภาพสูง ดีกว่าเครื่องมือที่เราซ์้อมาใช้ชั่วคราว ทำให้ฟิล์มกรองแสงติดตั้งได้เรียบร้อยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแน่นอน
รับประกัน: หากช่างมืออาชีพติดตั้ง จะมีการรับประกันหลังการติดตั้งตามอายุของฟิล์ม 5-10 ปี ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ถ้าเราติดเอง ก็ต้องรับประกันกันเองนะครับ

สรุป การติดฟิล์มรถยนต์เอง

การติดฟิล์มรถยนต์ด้วยตนเองเป็นกระบวนการที่ไม่ยากถ้าคุณมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำ การติดฟิล์มกรองแสงที่ดีและวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยปกป้องรถของคุณจากรังสี UV และความร้อนจากแสงแดด และเพิ่มความสวยงามให้กับรถยนต์ของคุณได้อีกด้วย

หากคุณต้องการฟิล์มที่มีคุณภาพ แนะนำให้ค้นหาและเลือกซื้อจากร้านติดฟิล์มที่น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มั่นใจในการติดตั้งด้วยตัวเอง ควรให้มืออาชีพดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐานและเป็นที่น่าพึงพอใจ จะดีที่สุดครับ ร้าน Filmtastic