ติดฟิล์มรถยนต์กี่เปอร์เซ็นดี 40/60/80 เลือกอย่างไรไม่ให้มืดเกินไปดี?
การจะเลือกติดฟิล์มความเข้มกี่เปอร์เซ็นดี 40% 60% 80% สูตรติดฟิล์มรถยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เป็นคนสายตาดีไหม? ขับรถกลางคืนบ่อยไหม? ขับรถต่างจังหวัดบ่อยไหม? ต้องการกันความร้อนสูงขนาดไหน?
หรือแม้กระทั้งความเคยชินว่าเคยติดมาความเข้มแบบไหน? วันนี้เรามาเจาะลึกกันติดฟิล์มรถยนต์เข้มเท่าไรดีครับ
แนะนำบทความน่ารู้เพิ่มเติม
สนใจดูตัวอย่างความเข้มฟิล์มรถยนต์ โทรเลย
วันนี้ Filmtastic เราขอแนะนำสูตรความเข้มการติดฟิล์มรถยนต์ตามความเข้มยอดนิยม 4 สูตรด้วยกันครับ
1. ติดฟิล์มความเข้ม บานหน้า60 รอบคัน80
จุดเด่นของฟิล์มรถยนต์ 60 80
คือเป็นความเข้มยอดนิยมสูงสุด สูตรการติดฟิล์มความเข้มระดับ 60/80 นี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาข้างในเห็นได้ สามารถสิ่งของมีค่าไว้ที่หลังรถได้โดยไม่ต้องกังวล ให้ความเป็นส่วนตัวสูง และยังกันความร้อนได้สูงสุดอีกด้วย
จุดอ่อนของฟิล์ม 60/80
แต่อย่างไรก็ตาม การติดฟิล์มความเข้ม 60/80 เหมาะสำหรับ คนที่เน้นขับรถเวลากลางวันเป็นหลัก ทำให้ขับรถได้สบาย ไม่แสบตา ไม่ต้องใส่แว่นกันแดด แต่ในเวลากลางคืนอาจจะมีความมืดไปบ้าง ถ้าถนนที่ท่านวิ่ง มีแสงน้อย การถอยรถในตอนกลางคืน อาจจะลำบากบ้างสำหรับบางท่าน
แนะนำติดฟิล์มรถยนต์ 60 80 รุ่นไหนดี?
ซึ่งถ้าคุณขับรถทั้งเวลากลางวันและกลางคืน และยังชอบฟิล์มเข้มๆอย่าง 60/80 ขอแนะนำต้องเจาะจงติดเป็นฟิล์มเซรามิค ซึ่งฟิล์มเซรามิคที่ปัจจุบันนิยมก็มีหลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น 3M Ceramic Ultra clear, Hi kool Ceramic black night, Lamina Ceramatrix เป็นต้น
เราแนะนำติดฟิล์มเซรามิคเนื่องจากจะมีความคมชัดมากกว่าฟิล์มดำ หรือฟิล์มปรอททั่วๆไป หรือไม่ก็ลดความเข้มเป็น 3บานหน้า 60 3บานหลัง80 ก็จะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นได้ อย่างที่จะแนะนำในต่อไป
2. ติดฟิล์มความเข้ม สามบานหน้า60 สามบานหลัง80
จุดเด่นของฟิล์มรถยนต์ 3บานหน้า60 / 3บานหลัง80
การติดฟิล์ม 3 บานหน้า60 และ 3 บานหลัง 80 สูตรนี้ก็ยังเป็นที่นิยมสูง เนื่องจากในส่วนของคนขับ สามารถมองทัศนวิสัยชัดเจน แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวบริเวณข้างหลัง
หลายคนยังเข้าใจผิดว่า การติดฟิล์ม 3 บานหน้า60 3บานหลัง80 จะทำให้ฟิล์มดำไม่เท่ากัน มองดูหลอกตา ไม่สวยหรือไม่ ขอบอกเลยว่าไม่เป็นความจริงครับ จริงๆแล้วฟิล์ม 60/80 ดูจากภายนอก จะดูเป็นสีดำคล้ายๆกันหมดแทบจะสังเกตไม่ออกเลย เพราะฉะนั้นสามารถติดได้สบายๆครับ ดูดำดุเหมือนกันหมด
จุดอ่อนของฟิล์มรถยนต์ 3บานหน้า60 / 3บานหลัง80
การติดฟิล์ม ครึ่งหน้าหน้า60 ครึ่งหลัง 80 คุณจะต้องเลือกฟิล์มที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพกันร้อนค่อนข้างสูงหน่อยใน 3 บานหน้า เนื่องจากถ้าฟิล์มไม่ดี อาจจะทำให้คนขับรู้สึกร้อนแขนบ้างถ้าแดดแรงๆ
เราแนะนำติดฟิล์ม3บานหน้าที่มีค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรดมากกว่า 80% จะกันร้อนได้ดี อีกทั้ง ค่าแสงสว่างส่องผ่าน (VLT) ไม่ควรต่ำกว่า 15% จะทำให้ไม่มืดจนเกินไป
3. ติดฟิล์มความเข้ม บานหน้า50 รอบคัน60
ความเข้มระดับ บานหน้า 40หรือ50 รอบคัน 60 หรือที่เราเรียกว่า ติดฟิล์มความเข้ม 40/60 เป็นสุตรความเข้มที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบความสบายตา ชอบขับรถสบายๆทั้งตอนกลางวันและกลางคืน
จุดเด่นของฟิล์มความเข้ม บานหน้า50 รอบคัน60
ติดฟิล์มบานหน้า 50 รอบคัน 60 เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่สายตาไม่ค่อยดีแล้ว สามารถขับรถได้ทุกเพศทุกวัย และสามารถขับรถกลางคืนได้แบบสบายๆ ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ถึงแม้ว่าขับไปถนนที่มีแสงไฟน้อย ก็ต้องไม่ต้องเพ่งจนปวดตา
จุดอ่อนของฟิล์มความเข้ม บานหน้า50 รอบคัน60
จุดอ่อนของการติดฟิล์มรถยนต์ 50/60 หรือติดฟิล์มรถยนต์ 40/60 นั้น ถ้าคุณขับรถในตอนกลางวัน อาจจะต้องมีการใส่แว่นกันแดดเพิ่มเติมบ้างเนื่องจากปริมาณแสงสว่างส่องผ่านมาก อาจจะทำให้แสงจ้าแสบตาได้
และอีก 1 จุดอ่อนของฟิล์มความเข้ม 40 60 คือ คนภายนอกสามารถมองทะลุเข้ามาข้างในได้ ทำให้อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ถ้าคนข้างหลังอยากได้ความเป็นส่วนตัวสูง อาจจะต้องพิจารณา ติด ครึ่งหน้า40 ครึ่งหลัง80 คล้ายๆสไตล์รถญี่ปุ่น ก็สามารถทำได้เช่นกัน
4. ติดฟิล์มความเข้ม รอบคันฟิล์มใส (VLT70%)
จุดเด่นของการติดฟิล์มใสรอบคัน
ฟิล์มใส คือ ฟิล์มกรองแสงที่มีค่าแสงสว่างส่องผ่าน (VLT) 70% การติดฟิล์มใสรอบคันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับรถกระบะสายซิ่ง ซึ่งชอบแต่งกระจกโดยติดฟิล์มให้มีสีฟ้าใส หรือ ฟิล์มเขียวใส หรือรถหรู Supercar ที่ต้องการโชว์อุปกรณ์ภายในรถ หรือโชว์ความเท่ของคนขับ ติดฟิล์มแบบใสก็จะเป็นที่นิยม
จุดอ่อนของการติดฟิล์มใสรอบคัน
อย่างไรก็ตาม การติดฟิล์มใสรอบคัน ด้วยความที่ปริมาณแสงส่องผ่าน (VLT) เข้ามาในตัวรถเยอะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แสงสว่างนำพาความร้อนเข้าในตัวรถด้วย(มากถึง44%) นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ฟิล์มใสจึงกันความร้อนได้ไม่มากเท่าฟิล์มดำที่คุณภาพเท่ากันนั่นเอง
ต่อให้ฟิล์มใสป้องกันรังสีความร้อนได้ถึง 99% ก็จะลดความร้อนรวม (TSER) ได้แค่ประมาณ 55% เท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ ฟิล์มใสยังไงก็ร้อนกว่าฟิล์มดำที่คุณภาพเท่ากันนั่นเอง
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงรถยนต์ได้ที่
ฟิล์มกรองแสงความเข้ม 40 60 80 คืออะไร?
ในการวัดความเข้มฟิล์มติดรถยนต์ที่ถูกต้องนั้น ความเป็นจริงแล้วจะต้องวัดกันที่ค่าแสงสว่างส่องผ่าน หรือ ค่า VLT ซึ่งจะเป็นค่าที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งยิ่ง %แสงส่องผ่านน้อย ยิ่งมีความเข้มมาก ยิ่ง%แสงส่องผ่านมาก ฟิล์มยิ่งมีความเข้มน้อยนั่นเอง
- ฟิล์มเข้ม 80 หมายถึง ฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน (VLT)ประมาณ 5 %
- ฟิล์มเข้ม 60 หมายถึง ฟิล์มที่ยอมให้แสงสว่างส่องผ่าน (VLT)ประมาณ 15-20 %
- ฟิล์มเข้ม 40 หมายถึง ฟิล์มที่มีแสงส่องผ่าน (VLT) ประมาณ 30-40 %
นั่นหมายความว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นฟิล์มที่แสงสว่างส่องผ่านไม่เท่ากัน เช่น ฟิล์มแสงสว่างส่องผ่าน 3% กับ 7% เราก็ยังเรียกเหมารวมๆว่าเป็นฟิล์มเข้ม 80 อยู่ดี
ทำไมคนไทยถึงเรียกความเข้มฟิล์ม 40 60 80 ?
เพื่อความสะดวกในการเรียกความเข้ม ในประเทศไทยนั้น เราจะเรียกความเข้มฟิล์มติดรถยนต์ไว้แค่ 3 ระดับ นั่นก็คือ ฟิล์มเข้ม 80 คือฟิล์มที่เข้มที่สุด เข้ม60 คือเข้มระดับกลางๆ เข้ม40 คือเข้มน้อยที่สุดนั่นเอง
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ การเรียกความเข้มฟิล์ม 40 60 80 เป็นแค่การบอกความเข้มแค่เพียงคร่าวๆเท่านั้น เพราะถึงแม้จะเป็นฟิล์ม 80 เหมือนกัน แต่ค่าแสงสว่างส่องผ่าน อาจจะไม่เท่ากันก็ได้ ทำให้ฟิล์ม 80 จริงๆแต่ละยี่ห้อ เข้มไม่เท่ากัน
สนใจดูตัวอย่างความเข้มฟิล์มรถยนต์ โทรเลย