หากคุณกำลังหาข้อมูลว่าจะเลือกฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี เพราะในปัจจุบันฟิล์มกรองแสงมีมากมายถึง 100 ยี่ห้อ หากคุณกำลังสับสน วันนี้ Filmtastic ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดฟิล์มรถยนต์ มีคำตอบให้ครับว่าควรจะเลือกจากอะไรบ้าง
พร้อมกันแล้วเรามาดูกันเลยครับ
หลายคนยังอ่านข้อมูลเพิ่มเติม: เปรียบเทียบ 6 ฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อดัง ยี่ห้อไหนดี?
สนใจติดฟิล์มหลากหลายยี่ห้อ โทรเลย
1. เป็นฟิล์มยี่ห้อที่น่าเชื่อถือหรือไม่?
ปัจจุบันในตลาดมีแบรนด์ฟิล์มกรองแสงเกิดขึ้นมากมาย อย่างแรกเลยเราควรเลือกฟิล์มชื่อดัง เช่นฟิล์มที่อย่างน้อยเราควรเห็นผ่านหูผ่านตาบ้าง ตามโฆษณา หรือ ป้ายหน้าร้านฟิล์มต่างๆ
วิธีเช็คว่าฟิล์มมาจาก USA จริงหรือไม่?
การเช็คความน่าเชื่อถืออีก 1 อย่าง คือการเช็คว่าฟิล์มมาจาก USA จริงๆหรือไม่? ซึ่งฟิล์มกรองแสงหลายแบรนด์เคลมว่าผลิตจากอเมริกา แต่จริงๆแล้วเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผลิตที่สถานที่นั้นจริงหรือไม่?
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราพอจะทำได้เลย คือ ใช้ Google ในการหาข้อมูลชื่อแบรนด์แล้วพิมพ์ประเทศนั้นๆ เช่น 3M USA, V-Kool USA หรือ SolarFX USA ถ้าพบเว็บไซด์ของบริษัทแม่แล้วเข้าไปดูที่ตั้งบริษัท ก็จะสามารถมั่นใจได้ว่าฟิล์มแบรนด์นั้นๆ เช่น SolarFX ผลิจจากอเมริกาเป็นอย่างที่เครมจริงๆ
หรือ บางแบรนด์ที่ OEM เราก็สามารถหาดูได้ว่าในอินเตอร์เน็ตมีคนใช้บ้างมั้ยและมีรีวิวเป็นอย่างไร ก็พอจะประกอบการตัดสินใจได้ครับ ถ้ามีการเปิดเผยข้อมูลโรงงานว่าผลิตจากที่ไหน คุณภาพเป็นอย่างไร ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นได้
2. การรับประกันฟิล์มอย่างไร?
การรับประกันก็เป็นอีกหลายสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคนมองข้ามไป แบรนด์ส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน 5-7 ปี ถ้าแบรนด์ไหนรับประกันนานกว่าก็อาจจะเป็นการประเมินได้ว่า ผู้ผลิตมั่นใจว่าสินค้าของตัวเองดีพอจริงๆ
เช่น ถ้าแบรนด์ฟิล์มกรองแสงกล้ารับประกัน 10 ปีขึ้นไป อาจจะมั่นใจว่า ฟิล์มคุณภาพดีจริงๆ
เงื่อนไขการรับประกันฟิล์มกรองแสง สิ่งสำคัญที่ควรดู
เราจะดูระยะเวลาการรับประกันฟิล์มอย่างเดียวไม่ได้ ที่สำคัญต้องดูเงื่อนไขการรับประกันด้วย ว่ารับประกันมากน้อยขนาดไหน เพราะบางแบรนด์รับประกันแค่ฟิล์มไม่ลอกออกจากกระจก แต่ฟิล์มทั้งสีเพี้ยน ทั้งเบลอ ย่นไปหมดแล้ว ปรากฏว่าเคลมประกันไม่ได้ ก็จะเสียโอกาส
3. เลือกความเข้มฟิล์มกรองแสงได้ตามต้องการหรือไม่?
ด้วยยุคสมัยที่หลายๆท่านอยากได้ฟิล์มที่ดำจากภายนอก แต่ยังสามารถมองจากภายในได้อย่างสบาย การที่ฟิล์มบางรุ่นมีให้เลือกเพียงเบอร์ 40 60 80 อาจจะไม่เพียงพอ แค่ 3 ความเข้ม
หากฟิล์มแบรนด์ใดที่มีให้เลือกความเข้มตั้งแต่ใส 40 50 60 70 80 หรือมีตัวอย่างให้ท่านดู จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
อีก 1 ประเด็นคือ การเลือกฟิล์มกรองแสงบางความเข้ม ไม่ควรจะคิดราคาแพงกว่าฟิล์มความเข้มอื่นๆ เช่นบางร้าน ถ้าคิดฟิล์มความเข้ม 80% แพงกว่าความเข้มอื่นๆ ถือว่าเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างเราๆ
หลายคนยังสนใจ บทความเพิ่มเติม: ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรดี
สนใจติดฟิล์มหลากหลายยี่ห้อ โทรเลย
4. สถานที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสง ดีหรือไม่?
นอกจากสินค้าที่ต้องได้คุณภาพ มีความเข้มที่ตรงกับความต้องการแล้ว สถานที่ติดตั้งก็สำคัญครับ เพราะจริงๆนอกจากประสบการณ์ของช่างแล้ว ฝุ่น ลม และ แสงสว่าง ก็เป็นปัจจัยหลักในการทำให้คุณภาพการติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้น ออกมาดีหรือไม่
เพราะฉะนั้นการติดตั้งฟิล์มในห้องติดฟิล์ม จะทำให้ควบคุมปัจจัยเหล่านั้นได้ดีครับ ดีกว่าติดตามที่โล่งแจ้งอย่างแน่นอน เพราะเราจ่ายเงินค่าติดตั้งเท่ากัน เราก็คงจะอยากได้ผลงานการติดตั้งที่ดีที่สุดใช่ไหมหละครับ
5. ติดฟิล์มแล้ว สัญญาณ EasyPass, GPS ผ่านหรือไม่
ด้วยยุคสมัยที่หลายท่านใช้ Easy Pass, M-Pass ในการชำระค่าผ่านทาง และ ใช้ Google Map ในการนำทางไปสถานที่ต่างๆ การที่ฟิล์มกรองแสงไปบล็อกสัญญาณ อาจจะทำให้เกิดการนำทางที่ผิดพลาด หรือ ต้องเปิดกระจกทุกครั้งในการชำระค่าผ่านทาง ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการที่ฟิล์มบางยี่ห้อ บางรุ่นใช้โลหะในการสะท้อนความร้อน
เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ฟิล์มที่ใช้อนุภาคนาโนเซรามิคในการกันความร้อน จะช่วยให้แก้ปัญหาได้ และ มีการกันความร้อนที่ไม่แตกต่างกันครับ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://solarfxthailand.com/5checklist-tint-car-film/
หากคุณสนใจติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ หรือ โทรเลย